เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ผิวพรรณที่เคยกระชับก็เริ่มหย่อนคล้อยไปตามวัย การดูแลผิวด้วยการทาครีมบำรุงเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีหลายเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยยกกระชับผิวได้โดยไม่ต้องผ่าตัด หนึ่งในนั้นก็คือ Thermage (เทอร์มาจ)
Thermage เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุชนิดขั้วเดียว (Monopolar RF) โดยสามารถส่งผ่านคลื่นลึกลงไปตั้งแต่ชั้นหนังแท้ (Dermis) จนถึงชั้นกล้ามเนื้อที่ชื่อว่า SMAS (Superfical Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังที่แพทย์ศัลยกรรมใช้ผ่าตัดเพื่อยกกระชับใบหน้า พลังงานคลื่นวิทยุจากเทอร์มาจจะทำให้เกิดความร้อนลึก (Deep heating) ที่เนื้อเยื่อใต้ชั้นผิว ส่งผลให้เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินที่หย่อนคล้อยเกิดการหดตัว ทำให้เกิดการเรียงตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อใต้ผิวหนังใหม่ ผลดังกล่าวจะทำให้โครงสร้างใต้ผิวหนังกระชับตัวดีขึ้น และในระยะเวลาต่อมาคอลลาเจนใหม่จะสร้างเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผิวมีความแข็งแรง ริ้วรอยต่างๆ ลดลง และรูขุมขนเล็กลง
ผลลัพธ์ของการทำ Thermage
การยกกระชับผิวด้วยเทอร์มาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นภายใน 2-3 เดือน โดยอาการจะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะผิวสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง และจะยกกระชับได้ดีที่สุดภายในเดือนที่ 6 ผลลัพธ์จากการทำ Thermage คงสภาพอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ทำให้ดูอ่อนเยาว์ลงได้ถึง 5-15 ปี ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และการดูแลผิวหลังทำของแต่ละบุคคล นอกจาก Thermage แล้ว ยังมีอีก 2 เทคโนโลยียกกระชับผิวที่มีหลักการทำงานที่คล้ายกัน และเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน คือ HIFU และ Ulthera สามารถปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมได้ว่า ตนเองเหมาะกับการยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยีใด
Thermage เหมาะสำหรับใคร?
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีริ้วรอยร่องแก้มลึก
- ผู้ที่มีหนังตาตก ต้องการยกคิ้วหรือยกหางตาขึ้น และกระชับหนังตาบน
- ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส มีริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก และริมฝีปาก
- ผู้ที่มีปัญหาผิวเหี่ยวย่นบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และมือ
- ผู้ที่มีผิวไม่เรียบเนียน เป็นเซลล์ลูไลท์บริเวณหน้าทอง หรือลำตัว
ข้อดีของ Thermage
- เทอร์มาจมีการพัฒนาต่อเนื่องปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงค่อนข้างมั่นใจได้ว่าจะไม่มีผลข้างเคียงในระยะยาว มีหลายรุ่น เช่น Thermage CPT หรือ Thermage FLX
- ใช้ระยะเวลาในการทำประมาณ 30-60 นาที สะดวก รวดเร็ว และไม่มีร่องรอย หรือบาดแผลหลังทำ สามารถกลับมาทำงาน หรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- สามารถทำได้กับทุกสีผิว โดยไม่มีข้อจำกัด
- รักษาเพียงครั้งเดียว ต่างจากเลเซอร์ทั่วไปที่ต้องทำซ้ำถึง 3-4 ครั้ง